สื่อต่างประเทศรายงานว่าเหล่าผู้นำด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลกอย่าง Google, Facebook, Microsoft และ Twitter ได้มีการรวมตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่รัฐฯเพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ เพื่อเตรียมรับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2020
โดยสี่ยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยี มีการเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ทั้งจาก FBI,
หัวหน้าเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและกองงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งการหารือครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหาวิธีป้องกันการปลุกปั่นด้วยข้อมูลเท็จซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในช่วงของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าอาสาสมัครค้นหาบุคคลสูญหายของประเทศเม็กซิโกค้นพบกระดูกมนุษย์กว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งเป็นของผู้สูญหายกว่า 150 คน ซึ่งถูกนำมาทิ้งไว้ไม่ไกลจากย่านที่พักหรูในเมืองกูเลียกัน รัฐโซโนรา เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทางกลุ่มพบถุงหลายใบถูกทิ้งไว้ข้างทาง ในถุงอัดแน่นไปด้วยกระดูกมือและเท้าของมนุษย์ปะปนกันอยู่ บางถุงเริ่มเสื่อมสภาพจากน้ำและแสงแดด บางถุงมีร่องรอยสัตว์ฉีกและคุ้ยถุง ทำให้มีกระดูกบางส่วนหล่นเกลื่อนพื้นอยู่ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชระบุว่า กระดูกบางชิ้นเป็นกระดูกของเด็กอีกด้วย
แม่ของเด็กรายหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มผู้เสียหาย คาดว่าเจ้าของกระดูกเหล่านี้น่าจะเป็นเด็ก รวมถึงผู้ใหญ่ที่ถูกจับไปทรมาน และกระดูกเหล่านี้มาจากเหยื่อที่ถูกตัดนิ้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทรมานและฆาตกรรมเหล่านี้เป็นใครกลุ่มใด แต่ภูมิภาคดังกล่าวก็ขึ้นชื่อเรื่องเหตุรุนแรงและขบวนการยาเสพติด
นอกจากนี้ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่าน กลุ่มอาสาฯยังพบศพผู้สูญหายอีก 3 ราย ที่ทุกคนมีแผลถูกยิงที่ศีรษะ และยังมีการขุดเจอศพเพิ่มอีก 2 รายซึ่งถูกฝังอยู่ในสถานที่อื่นๆ ด้วย กลุ่มอาสาฯ นี้เป็นการรวมตัวกันของสมาชิกจากครอบครัวที่มีผู้สูญหาย โดยมีจุดหมายเพื่อออกตามหาคนกว่า 57,861 คนที่หายตัวไปในประเทศเม็กซิโกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่ามีผู้คนจำนวนมากจับกลุ่มมองดูคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังมีเซ็กซ์ในสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าของโรงแรม Avalon Hotel ในเมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน โดยอาจลืมไปว่าสระน้ำนี้ล้อมรอบด้วยกระจกใสที่มองเห็นทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งเวลาที่เกิดขึ้นก็เป็นเวลากลางวันแสกๆ
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้านล่าง เริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมด้านบน และเริ่มมองออกว่าทั้งคู่ทำอะไรกันจึงเริ่มจับกลุ่มกันหลายคนเป็นกองเชียร์อยู่ที่ด้านล่างโรงแรม หลายคนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาบันทึกภาพหรือวีดิโอไว้ หลายคนส่งเสียงร้องเชียร์ลั่น พร้อมทั้งหัวเราะและขำเสียงดังไปทั่วบริเวณ
รวบ 8 สาวไทย ลักลอบซุกยาเสพติดใต้ชุดชั้นในเข้าญี่ปุ่น มูลค่ากว่า 32 ล้านบาท
วานนี้ (3 ก.ย.) เฟซบุ๊กเพจ นี่ห้องโชว์ไก่ 日本紹介 ได้รายงานข่าวจากประเทศญี่ปุ่น หลังศุลกากรโตเกียวและตำรวจญี่ปุ่นสามารถจับกุมหญิงไทย 8 รายที่ลักลอบขนยาเสพติดจำนวน 1.9 กก. เข้าประเทศ โดยซุกไว้ในชุดชั้นใน
ทั้งหมดเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นกับกรุ๊ปทัวร์ แต่ได้แยกตัวออกจากลุ่มเพื่อไปขนยา ซึ่งยาเสพติดดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณ 114 ล้านเยน หรือประมาณ 32 ล้านบาท
หลังถูกจับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมดสารภาพว่าได้ลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นจริง โดย 3 รายแรก ได้ใช้วิธีซ่อนยาเสพติดในชุดชั้นใน เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามมาด้วย 5 คนหลังที่ได้ใช้วิธีซุกยาเสพติดในถุงยางแล้วยัดซ่อนไว้ภายในร่างกาย เพื่อนำยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 15 ส.ค.
ทางศุลกากรและตำรวจแจ้งว่าทั้ง 8 คน มากับกรุ๊ปทัวร์และเมื่อมาถึงสนามบินนาริตะ ทั้งหมดก็ได้แยกตัวออกจากกลุ่มไป เจ้าหน้าที่ศุลกากรเกิดความสงสัย จึงได้ขอค้นตัว และพบว่ามีการลักลอบขนและซุกซ่อนยาเสพติดมาจริงๆ
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่า เด็กสาววัยเพียง 18 ปี จากรัฐยูทาห์ สหรัฐฯ ชื่อ แมดดี้ นีลสัน ล้มป่วยหนักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะนิสัยการสูบบุหรี่จัด โดยบุหรี่ที่สูบเป็นบุหรี่ไฟฟ้า เธอสูบต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลานาน 3 ปีส่งผลให้ปอดเสียหายอย่างหนัก
แมดดี้เริ่มมีอาการไม่ดีตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา กระทั่งเดือนก.ค. เธอเริ่มเจ็บหลังและไตอย่างรุนแรง แลหายใจติดขัด ทางบ้านจึงส่งเธอไปโรงพยาบาลโดยด่วน แอนเดรียพี่สาวของแมดดี้ เผยว่า แพทย์พยายามให้ออกซิเจนแก่แมดดี้ แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ จนชีวิตของแมดดี้เฉียดใกล้ความตาย ผลการเอกซเรย์เผยให้เห็นว่าปอดของเธอมีความเสียหายรุนแรงมาก กระทั่งในที่สุดแมดดี้ก็อยู่ในสภาพโคม่า
กระทั่งเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ผลการวินิจฉัยเผยว่า แมดดี้นั้นป่วยเป็นโรคปอดรุนแรง ชนิดที่ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวจำนวนมากมาสะสมที่ปอด ซึ่งแพทย์สงสัยว่าน่าจะเกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง