เจ้าหน้าที่ตำรวจในสหรัฐฯกำลังไล่ล่า โจรปล้นไก่ทอด ที่บุกปล้นร้านอาหาร หลังจากที่ร้านไม่ยอมขายให้ เพราะเขาไม่สวมหน้ากากอนามัย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว ABC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ล่าชายไม่ทราบชื่อที่บุกปล้นไก่ทอดกับวาฟเฟิล หลังจากที่ทางร้านไม่ยอมขายอาหารให้เนื่องจาก ผู้ก่อเหตุไม่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งขัดต่อนโยบายป้องกันโควิด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯระบุว่า ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้าร้านอาหารในช่วงเวลาประมาณ 17.37 น.
ตามเวลาท้องถิ่น โดยทางร้านระบุว่าพวกเขาไม่สามารถให้บริการกับชายคนดังกล่าวได้เนื่องจากเขาไม่สวมหน้ากากอนามัย อย่างไรก็ตามทางร้านยืนยันกับผู้ก่อเหตุว่าพวกเขาพร้อมให้บริการ หากผู้ก่อเหตุปฏิบัติตามมาตรการของร้าน
ผู้ก่อเหตุได้เดินออกจากร้านจริง แต่เขากลับมาพร้อมกับปืนในมือ ก่อนจะปรี่เข้ามาจ่อปืนเข้ากับพนักงาน พร้อมสั่งให้พนักงานนำไก่ทั้งหมดใส่ในถุง ซึ่งผู้จัดการร้านระบุว่าคนร้ายไม่ได้ขอเงินจากทางร้าน แต่ขอแค่ไก่กับวาฟเฟิลเท่านั้น พร้อมยืนยันอีกว่า คนร้ายไม่ได้ขโมยทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของชายคนดังกล่าวได้ เนื่องจากเขาไม่ได้สวมหน้ากากปกปิดใบหน้าของตนเอง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ล่าผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว
ซึ่งในช่วงที่นายนาวัลนีพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าว นายแม็กซิมิชิน เป็นผู้ดูแลรักษา อริของผู้นำรัสเซีย ทั้งนี้ผู้ตายไม่เคยออกมาแถลงการที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายนาวัลนี
ขณะเดียวกัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของนายนาวัลนี ออกมายืนยันว่าผู้ตายเป็นคนดูแลนายนาวัลนีจริง พร้อมตั้งข้อสันนิษฐานการตายของนาย แม็กซิมิชิน อาจจะมีเหตุไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น เนื่องจากผู้ตายเป็นคนที่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยของนายนาวัลนีมากที่สุด
ปัจจุบันนาย นาวัลนี ถูกตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลาสามปีครึ่ง ในข้อหาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการประกันตัว แม้ว่าประชาชนชาวรัสเซียหลายพันคนจะออกมาชุมนุมประท้วงเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา และนำไปสู่เหตุปะทะในหลายจุดทั่วประเทศรัสเซีย ซึ่งสำนักข่าวรายงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ชุมนุมในกรุงมอสโกอย่างมากกว่า 850 ราย
หลังจากการเสียชีวิตของ ลุงวิชา ชายไทยในสหรัฐฯ ที่ถูกผลักล้มจนเสียชีวิต ชาวเน็ตก็ได้ #AsiansAreHuman เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเขา
ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมากได้ออกมาติด #AsiansAreHuman เพื่อออกมาแสดงพลังและแสดงความไม่พอใจ หลังจากที่ นายวิชา รัตนภักดี ชาวไทย วัย 84 ปี ถูกนาย วัยรุ่นอายุ 19 ปี ชาวอเมริกัน ผลักล้มจนส่งผลให้ลุงวิชาเสียชีวิต ที่นครซานฟรานซิสโก เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา
โดยครอบครัวของผู้ตายระบุว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นอาชญากรรมทางความเกลียดชัง พร้อมระบุว่าครอบครัวของพวกเขาต้องเผชิญกับข้อความเหยียดชาติพันธุ์มาตลอด นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้น
ซึ่งชาวเน็ตได้ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมทางสีผิว พร้อมระบุว่าทุกเชื้อชาติถือเป็นมนุษย์เหมือนกันและควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม โดย #AsiansAreHuman กลายเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์ หลังจากมีผู้ร่วมการรณรงค์ครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมานายวิชา ที่กำลังเดินอยู่ริมถนนแอนซ่าวิสต้า และฟอร์ทูน่า ในเมืองแอนซ่า วิสต้า ใกล้มหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก ถูกผู้ก่อเหตุวิ่งเข้ามาผลักอย่างแรงจนล้มกระแทกพื้นปูนซีเมนต์ โดยที่ไม่มีการสนทนา ยั่วยุ มาาก่อน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวิชาไปส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน แต่ด้วยอาการที่สาหัส ทำให้เขาเสียชีวิตในอีก 2 วันต่อมา
ทางการเยอรมนีเร่งช่วยเหลือ โปรตุเกส หลังอ่วม โควิด
กองทัพเยอรมนีส่งเครื่องบินขนอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือ โปรตุเกส หลังสถานการณ์ โควิด อ่วมหนัก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ สำนักข่าว BBC รายงานว่า เครื่องบินของกองทัพเยอรมันได้ลงจอดที่สนามบินในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เพื่อนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ หลังจากที่ประเทศโปรตุเกสต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงที่ผ่านมาทางการโปรตุเกสระบุว่าระบบสาธารณะสุขในประเทศกำลังอยู่ภาวะวิกฤติ เนื่องจากพวกเขาขาดแคลนบุคลาการทางการรแพทย์ เตียง และในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งยังระบุว่าพวกเขากำลังขาดแคลนอ๊อกซิเจนอย่างรุนแรง
นาย ริคาร์โด เมเซีย ประธานสมาคมแพทย์สาธารณสุข กล่าวว่าสาเหตุที่ตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากเนื่องจากการผ่อนมาตรการในช่วงคริสต์มาส รวมไปถึงโควิดกลายพันธุ์ที่เริ่มแพร่ระบาดในประเทศโปรตุเกส ซึ่งจำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อวันมากกว่าช่วงปีที่แล้วถึง 10 เท่า
ขณะนี้ประเทศโปรตุเกสมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 160,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 13,000 ศพ โดยผู้เสียชีวิตในช่วงเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียวคิดเป็นร้อยละ 40 ของยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง